งานบวช ต้องเตรียมอะไรบ้าง สิ่งที่ควรรู้สำหรับการจัดพิธีบวชพระ
งานบวช หรือ งานบวชพระ ถือเป็นหนึ่งพิธีสำคัญของชาวพุทธ แต่หากจะจัดงานบวช ต้องเตรียมอะไรบ้าง มีขั้นตอนงานบวชอย่างไร อ่านบทความนี้จบแล้วจะหมดคำถามแน่นอน

การบวชพระ งานบวชพระ เป็นประเพณีที่อยู่คู่กับพุทธศาสนิกชนมาเนิ่นนาน ซึ่งชายไทยเมื่ออายุครบบวช ก็มักจะตั้งใจบวชให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต เพื่อศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ฝึกฝนกาย วาจา ใจให้สงบ พร้อมทั้งทำหน้าที่สืบทอดพระพุทธศาสนา และยังเป็นการตอบแทนบุญคุณของบิดามารดา ดังที่มีความเชื่อว่าถ้าใครบวชแล้วจะได้บุญกุศลมาก ช่วยให้ครอบครัวได้เกาะชายผ้าเหลืองไปสวรรค์ ซึ่งถ้ามองความหมายให้ลึกซึ้งลงไป งานบวชก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้จิตใจของพ่อแม่มีความสุข ปลาบปลื้มยินดีด้วย
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีผู้เข้ารับการบวชน้อยลง แต่ความสำคัญของงานบวชก็ไม่ได้ลดลงไปเลย วันนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จักกับงานบวช พร้อมวิธีจัดงานบวชแบบครบทุกขั้นตอนกัน
การบวช มีอะไรบ้าง
ในสมัยพุทธกาลมีการบวช 2 ชนิด ได้แก่
- การบวชแบบติสรณคมนูปสัมปทา คือ การบวชสำหรับผู้ที่บรรลุไตรสรณคมน์แล้ว
- การบวชแบบญัตติจตุตถกรรมวาจา คือ การบวชโดยได้รับความเห็นชอบจากคณะสงฆ์
โดยการบวชจะต้องเริ่มจากการบรรพชาเป็นสามเณรเสียก่อน เพื่อทำการศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนเบื้องต้น เมื่อพระพุทธเจ้าทรงเห็นว่าคนผู้นั้นมีคุณสมบัติพร้อมที่จะเป็นพระได้ จึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุให้ในเวลาต่อมา ทว่าทุกวันนี้การบวชเดียวที่หลงเหลืออยู่จะเป็นการบวชแบบญัตติจตุตถกรรมวาจา ที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะสงฆ์เท่านั้น
รูปแบบของงานบวช
การบวชที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ
-
การบรรพชา
ใช้กับการบวชเณร คือ การบวชให้กับผู้ที่มีอายุน้อยกว่าอายุครบบวช (กำหนดอายุครบบวชคือ 20 ปีบริบูรณ์) หรือผู้ที่ต้องการบวชเพียงชั่วระยะเวลาสั้น ๆ โดยจะถือศีลเพียงแค่ 10 ข้อ และใช้พระอุปัชฌาย์เพียงองค์เดียวก็สามารถทำการบรรพชาสามเณรได้แล้ว
-
การอุปสมบท
ใช้ในการบวชพระ คือ การบวชให้กับผู้ที่มีอายุครบบวชและมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะทำการบวชได้
เช่น ไม่เป็นผู้ทำผิดกฎหมาย ไม่เป็นผู้ที่เคยฆ่าคนตาย ไม่เป็นผู้ติดยาเสพติด ไม่เป็นโรคติดต่อ เป็นต้น โดยการอุปสมบทจะต้องมีคณะสงฆ์ทำการลงมติอนุญาต ผู้ขอบวชจึงจะสามารถบวชพระได้
งานบวช ต้องเตรียมอะไรบ้าง
สำหรับใครที่ต้องการจะบวช นอกจากเตรียมตัวก่อนบวชด้วยการหาฤกษ์ยาม หาสถานที่ และท่องคำบาลีหรือที่เรียกกันว่าขานนาคให้คล่องแล้ว ยังต้องจัดเตรียมของต่าง ๆ เพื่อใช้ในพิธี ดังนี้
1.เครื่องใช้สำหรับงานบวช ประกอบด้วย
- กรรไกร สำหรับตัดปอยผม
- ใบบัวขนาดใหญ่ สำหรับใส่ปอยผมที่ตัดแล้ว
- มีดโกน สำหรับโกนผม
- เครื่องอาบน้ำสำหรับล้างตัวนาคหลังจากที่ทำการโกนผมเสร็จแล้ว เช่น สบู่ ยาสระ เป็นต้น
- ชุดนาค (ผ้าขาวนุ่งนาค อังสะ รัดประคต)
- ธูปเทียนแพสำหรับทำพิธีขอขมากรรม
- ดอกไม้ ธูปเทียน นิยมใช้เป็นดอกบัว 3 ดอกพร้อมธูปเทียน สำหรับนาคใช้ถือตอนงานแห่นาคและเดินรอบอุโบสถ
- เหรียญโปรยทาน
- พานแว่นฟ้า พร้อมดอกไม้คลุมไตร
- ตาลปัตร
- ของที่จะนำมาถวายแด่พระอุปัชฌาย์และพระคู่สวด เช่น ผ้าไตร ชุดไทยธรรม ซองปัจจัยหรือใบปวารณา
2. เครื่องใช้สำหรับพระใหม่
เครื่องใช้สำหรับงานบวชพระใหม่เรียกว่า “เครื่องอัฐบริขาร” หมายถึง เครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับการดำรงเพศบรรพชิต ซึ่งเครื่องอัฐบริขารตามหลักพระพุทธศาสนาประกอบด้วย “ผ้า 4 เหล็ก 3 น้ำ 1” รวมทั้งหมด 8 อย่าง ได้แก่
- ผ้า 4 อย่าง คือ ผ้าสบง ผ้าจีวร ผ้าสังฆาฏิ และผ้าประคดคาดเอว
- เหล็ก 3 อย่าง คือ บาตรพระ มีดโกน เข็มเย็บผ้าพร้อมด้าย
- น้ำ 1 อย่าง คือ ธมกรก (กระบอกกรองน้ำของพระสงฆ์)
นอกจากเครื่องอัฐบริขารที่ต้องจัดเตรียมแล้ว เจ้าภาพจะต้องทำการจัดเตรียมเครื่องบริวาร หรือของใช้ส่วนตัวสำหรับพระภิกษุ เช่น ที่นอน เสื่อ มุ้ง หมอนหนุน ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว ขันน้ำ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ผ้าสบง และผ้าจีวร (เอาไว้ผลัดเปลี่ยน) แก้วน้ำ กาต้มน้ำ ปิ่นโต ย่าม ร่ม และรองเท้า เป็นต้น

ขั้นตอนงานบวช
หลังจากเตรียมของและจัดเตรียมสถานที่พร้อมแล้ว เมื่อถึงวันบวชพระก็จะมีพิธีปฏิบัติหลายขั้นตอนที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณ ดังนี้
-
พิธีปลงผมนาค
การตัดปอยผมจะเป็นการให้พ่อแม่ ญาติ เพื่อน พี่น้องและเพื่อน เข้ามาตัดปอยผมออกจากศีรษะด้วยกรรไกรก่อน เสร็จแล้วจะนำปอยผมดังกล่าวมาวางไว้บนใบบัวที่จัดเตรียมไว้ จากนั้นพระพี่เลี้ยงก็จะโกนผมที่อยู่บนศีรษะออกทั้งหมดเป็นลำดับต่อไป
-
พิธีการขอขมา
เมื่อโกนผมเสร็จแล้ว นาคจะเข้ามาขอขมาลาบวชต่อพ่อแม่ พร้อมกับล้างเท้าบุพการี ซึ่งญาติและผู้ที่มาร่วมงานทุกคนสามารถเข้าไปทำพิธีได้ เพื่อให้นาคได้ขออโหสิกรรมในสิ่งที่เคยได้ล่วงเกินมาก่อน ทั้งโดยตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ โดยนาคจะยกธูปเทียนแพเป็นการขมา พร้อมทั้งรับมอบผ้าไตร
-
พิธีอาบน้ำนาค
ต่อจากพิธีการขอขมาก็จะเป็นพิธีอาบน้ำนาคให้สะอาดหมดจด โดยพ่อแม่เป็นผู้รดน้ำก่อน ตามด้วยญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ร่วมกันขัดสีฉวีวรรณให้นาคด้วยความปลื้มใจ เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้ว นาคจะนุ่งชุดขาวเตรียมเข้าโบสถ์เพื่อประกอบพิธีทำขวัญนาคต่อไป
-
พิธีทำขวัญนาคและฉลองไตร
ในพิธีการทำขวัญนาคจะมีการเทศน์สอนนาคให้ระลึกถึงบุญคุณของบิดา มารดา การทดแทนพระคุณ และประโยชน์ในการบวชเรียน คำกล่าวนี้จะเป็นการร้องหรือการแหล่ที่ไพเราะกินใจ ทำให้นาคเกิดความปิติซาบซึ้ง ทั้งนี้เพื่อปลุกเร้าให้นาคมีกำลังใจและตั้งใจที่จะบวชเรียน
-
พิธีแห่นาค
จากนั้นจะเข้าสู่การแห่นาค หมายถึง การเดินทางพานาคไปยังอุโบสถสำหรับประกอบพิธีอุปสมบทนาคให้เป็นพระ โดยก่อนที่นาคจะเข้าไปภายในอุโบสถได้นั้น นาคจะต้องเวียนประทักษิณหรือวนขวารอบพระอุโบสถจำนวน 3 รอบ พร้อมกับพ่อแม่และผู้ที่มาร่วมงาน
งานบวช ใครถืออะไร : พ่อเป็นผู้อุ้มบาตรและถือตาลปัตร ส่วนแม่เป็นผู้ถือพานผ้าไตร ญาติพี่น้องหรือผู้ร่วมงานถือหมอน ที่นอน กลด อัฏฐบริขาร สังฆทาน ตามลำดับ

-
โปรยทาน
เมื่อเวียนรอบอุโบสถครบ 3 รอบแล้ว นาคก็จะโปรยทานให้กับผู้ที่มาร่วมงานบวช เพื่อแสดงถึงการสละซึ่งทรัพย์สมบัติทางโลกเพื่อที่จะเข้าสู่ทางธรรมเต็มตัว จากนั้นพ่อแม่ของนาคก็จะพานาคเดินเข้าสู่ประตูโบสถ์
-
พิธีวันทาสีมาและเดินเข้าอุโบสถ
ก่อนที่นาคจะทำการเข้าสู่ภายในอุโบสถ นาคจะต้องทำการวันทาสีมา หรือไหว้พระสีมาที่บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าอุโบสถ ด้วยการกล่าวคำวันทาสีมาหน้าพระอุโบสถ ถือเป็นการแสดงความเคารพต่อพระอุโบสถ จากนั้นนาคจะต้องเดินเข้าอุโบสถเป็นคนแรก ตามด้วยพ่อแม่หรือญาติพี่น้อง ซึ่งตามความเชื่อของคนโบราณ ในขณะที่เดินเข้าอุโบสถ พ่อแม่หรือญาติสามารถจับที่ชายผ้าของชุดที่นาคสวมอยู่ได้ เปรียบเป็นการจับชายพาเข้าสู่ร่มพระธรรม
-
พิธีอุปสมบท
หลังจากเข้ามาภายในโบสถ์แล้ว นาคจะต้องไหว้พระประธาน พร้อมกับเปล่งวาจาขออุปสมบท ตามด้วยฟังพระอุปัชฌาย์สอนกัมมัฏฐาน เสร็จแล้วพระอุปัชฌาย์จะสวมอังสะให้กับนาค จากนั้นนาคจะต้องออกไปที่หลังโบสถ์ เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้านุ่งห่มสบงจีวร
เมื่อครองผ้าไตรจีวรแล้ว นาคจะต้องเปล่งวาจาขอสรณะและศีล 10 เพื่อรับศีล ขั้นตอนต่อไป พ่อแม่จะเข้ามาประเคนบาตรและตาลปัตรให้กับนาค โดยนาคจะต้องรับประเคนบาตร จากนั้นจึงเข้าไปถวายดอกไม้ ธูปเทียน ให้กับพระอุปัชฌาย์ พร้อมกับกล่าวคำขอนิสัย พระกรรมวาจารย์ และพระอุปัชฌาย์คล้องบาตรให้กับนาค และพระคู่สวดจะประกาศว่าผู้ชื่อนั้น ๆ ได้มาขออุปสมบทเป็นพระภิกษุ แล้วสอบถามอันตรายิกธรรมเป็นข้อ ๆ ซึ่งผู้บวชจะต้องกล่าวรับ “ขานนาค” เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนนี้แล้วก็ให้นาคเปล่งวาจาขอญัตติกรรม สังฆัมภันเต จากนั้นก็ฟังอนุสาสน์บาลีจากพระอุปัชฌาย์ ตามด้วยถวายเครื่องไทยธรรม กราบสงฆ์ และกรวดน้ำก็เป็นอันเสร็จพิธี
เมื่อจบพิธีการนี้ก็จะได้ชื่อว่าเป็นพระภิกษุโดยสมบูรณ์ พระใหม่จะเดินออกจากอุโบสถ พร้อมทั้งรับบิณฑบาตจากญาติโยมที่รออยู่ด้านหน้า ซึ่งหลังจากนี้อาจจะมีพิธีเลี้ยงฉลองงานบวชหรือไม่ก็ได้ ตามความพร้อมของเจ้าภาพ

จะเห็นว่างานบวชเป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่ แม้อาจจะมีรูปแบบการจัดงานบวชที่แตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่และยุคสมัย แต่หัวใจหลักของงานบวชที่ขาดไม่ได้เลยก็คือจิตใจที่พร้อมสละทางโลก เข้าสู่ทางธรรม ซึ่งผู้บวชจะได้ปฏิบัติตนสืบทอดคำสอนของพระพุทธเจ้าให้ดำรงคงอยู่ต่อไป
สนใจสั่งซื้อผ้าไตรจีวรที่ได้มาตรฐาน ทั้งเนื้อผ้า, ขนาดและการตัดเย็บ คลิกที่นี่ได้เลยครับ โชคดีสังฆภัณฑ์
อ่านบทความอื่นๆ ของทาง โชคดี สังฆภัณฑ์ อ่านบทความเพิ่มเติม
ช่องทางการติดต่ออื่นๆ
แอด Line : @chokdees
Shopee : Chokdees
Lazada : Chokdees
IG: chokdee_sanghaphan

เสื้อนาค ลายชาววัง อย่างดี

เสื้อนาคลายทอง บาง

เสื้อนาค ลูกไม้ดี

เสื้อนาค แบบ ธรรมดา






